สำหรับเทรดเดอร์ทุกคน แนวโน้มเป็นภาพรวมของตลาดขณะที่ต้องการจะกระทำการเทรด มันเป็นเสมือนสายน้ำที่เอาขึ้นทั้งสิ้นได้แล้วก็สามารถต่ำลงทั้งสิ้นได้เหมือนกัน สำหรับเทรดเดอร์รายวัน แนวโน้มของตลาดระหว่างวันนั้นสามารถสร้างไม่เหมือนกันระหว่าง SESSION ของกำไรกับการขาดทุนได้ โดยการเทรดไปกับแนวโน้มระหว่างวัน

เนื่องมาจากแนวโน้มเป็นภาพรวมที่ดูเหมือนกับว่าจะถูกลบออกจากการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคาในขณะนี้ โดยเหตุนี้เทรดเดอร์เป็นจำนวนมากจะถูกลวงล่อให้ออกจากการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคาหรือออกมาจากสมการแนวโน้ม พวกเขาใช้เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเคลื่อน ที่อยู่ไกลเพื่อระบุแนวโน้มของตลาดและไม่คิดถึงต้นสายปลายเหตุสำหรับเพื่อการเคลื่อนของแผนภูมิราคา เทรดเดอร์กลุ่มนี้ไม่มีวัสดุรับรองที่สำคัญ

การใช้อินดิเคเตอร์เพื่อเจาะจงแนวโน้มระหว่างวันนั้นมีเหตุผล แต่ถ้าเกิดพวกเราเชื่อมโยงพวกเขากับการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคาได้ พวกเราจะสามารถเพิ่มความรู้ความเข้าใจของพวกเขาได้

1. อินดิเคเตอร์เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเคลื่อนกับ PRICE ACTION

แนวทางแบบนี้จะใช้อินดิเคเตอร์เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเขยื้อน SMA20 คู่กับการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคา เพื่อแจกแจงแนวโน้มระหว่างวัน โดยเบื้องต้นแล้วพวกเรากำลังมองหาการถอยกลับของกระบวนการทำ HH ในตอนแนวโน้มขาขึ้นเพื่อรับรองตลาดวัวกระทิง เวลาที่มองหาการถอยกลับของแผนภูมิราคา LL เพื่อรับรองตลาดหมีด้วยเหมือนกัน

ทดลองมองหาสิ่งพวกนี้ เพื่อการันตีแนวโน้มขาขึ้น :

1. แผนภูมิราคาพากเพียรจะไปสัมผัสเส้นค่าถัวเฉลี่ยเขยื้อน
2. แผนภูมิราคายังคงต่ำลงยิ่งกว่าเส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเคลื่อนอย่างต่ำหนึ่งแท่ง
3. เมื่อแผนภูมิราคาปรับพฤติกรรมขึ้นไปสูงขึ้นยิ่งกว่าเส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาแล้ว แผนภูมิราคาจำเป็นจะต้องทำระดับย้อนกลับมาสู่เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาอีกที
4. ต่อไปแผนภูมิราคาจะทำตำแหน่งสูงมากขึ้น เพื่อเป็นการรับรองตลาดวัวกระทิงแผนภูมิราคาจึงควรทำระดับที่ค่อนข้างสูงกว่าแผนภูมิแท่งที่อยู่เหนือเส้นค่าถัวเฉลี่ย

ถ้าอยากการันตีแนวโน้มตลาดขาลง ระหว่างวันให้มองหาสิ่งต่อแต่นี้ไป :

1. แผนภูมิราคาจะมานะแตะต้องค่าถัวเฉลี่ยเคลื่อน
2. แผนภูมิราคายังคงสูงขึ้นมากยิ่งกว่าเส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาอย่างต่ำหนึ่งแท่ง
3. ภายหลังที่แผนภูมิราคาปรับนิสัยลงไปแตะต้องเส้นค่าถัวเฉลี่ยแล้ว แผนภูมิราคาจะทำขั้นสูงขึ้นมาเพื่อแตะต้องเส้นค่าถัวเฉลี่ยอีกรอบ ก่อนที่จะแผนภูมิราคาจะลงไปสู่ตลาดขาลงอีกครั้ง
4. แนวโน้มตลาดหมีจะรับรองได้ ต่อเมื่อแผนภูมิราคาทำระดับที่ค่อนข้างต่ำกว่า แผนภูมิแท่งเทียนแท่งที่ต่ำสุด

2. ช่อง CHANNEL ของแผนภูมิราคากับ PRICE ACTION

ในแนวทางลำดับที่สองนี้แทนที่จะใช้ค่าถัวเฉลี่ยเขยื้อนแบบง่ายเพียงแต่เส้นเดียว พวกเราจะใช้สองเส้นโดยพวกเราจะยังคงใช้เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคา SMA20 โดยการผลิตให้เป็นช่อง CHANNEL ด้วยเส้นแรก APPLY HIGHT และก็อีกเส้น APPLY LOW พวกเราจะได้เส้นผลสร้างวิถีทางราคาเพื่อช่วยพวกเราสำหรับเพื่อการมองหาแนวโน้มระหว่างวัน

ด้วยเหตุว่าอินดิเคเตอร์ตัวนี้ การทำงานสลับซับซ้อนกว่าแบบแรกฉะนั้นการแปลความหมายก็เลยง่ายดายยิ่งกว่า เมื่อแผนภูมิแท่งเทียนราคาสองแท่งอยู่เหนือช่อง CHANNEL อย่างสมบูรณ์พวกเราจะกำหนดว่าเป็นแถวโน้มขาขึ้น และก็เมื่อแผนภูมิราคาสองแท่งอยู่ข้างล่างของช่อง CHANNEL พวกเราจะกำหนดให้เป็นแถวโน้มขาลง

แบบอย่างข้างล่างชี้ให้เห็นว่าช่อง CHANNEL ช่วยระบุแนวโน้มความเคลื่อนไหวระหว่างวันได้ยังไง

• ถึงแม้ว่าตลาดจะมากขึ้นอย่างเร็วตั้งแต่ระยะนี้เปิดขึ้นตามแนวทางนี้พวกเราสามารถระบุแนวโน้มโค ณ จุดนี้เพียงแค่นั้น

• แท่งทั้งคู่นี้แปลงแนวโน้มระหว่างวันเป็นขาขึ้น

มีหลายแนวทางสำหรับเพื่อการสร้างช่อง CHANNEL นี้ นอกเหนือจากการใช้เส้นค่าถัวเฉลี่ยราคาเขยื้อน APPLY HIGH แล้วก็ APPLY LOW คุณยังสามารถใช้ KELTNER BANDS รวมทั้ง BOLLINGER BANDS ได้ด้วย รวมทั้งเพราะช่อง CHANNEL กลุ่มนี้ผลิตขึ้นแตกต่างคุณต้องปรับกฎในการระบุแนวโน้มระหว่างวันของคุณด้วย

3. การใช้กรอบขณะที่สูงมากขึ้น

จากที่กล่าวเอาไว้ภายในส่วนแรกเนื้อหานี้ว่า แนวโน้มเป็นภาพใหญ่ มันเป็นมุมมองในระดับที่สูงขึ้นของตลาด เพราะฉะนั้นแนวทางหนึ่งที่ได้รับความนิยมสำหรับการระบุแนวโน้มระหว่างวันเป็นมองการเคลื่อนไหวของแผนภูมิราคาในกรอบในขณะที่สูงมากขึ้น

กระบวนการนี้ พวกเราบางทีอาจมองแนวทางแนวโน้มกรอบเวลาราย 4 ชั่วโมงแม้กระนั้นมากระทำเทรดในกรอบเวลา 5 นาทีได้ ด้วยการพยายามอิงตามแนวโน้มของกรอบเวลาใหญ่ไว้ อาทิเช่นกรอบเวลาใหญ่มีลัษณะทิศทางเป็นตลาดวัวกระทิง เมื่อพวกเราจะกระทำการเทรดในกรอบเวลา 5 นาทีพวกเราจะย้ำการเทรด BUY มากยิ่งกว่าการเทรด SELL หรือถ้าเกิดพวกเราเทรดทั้งยัง BUY แล้วก็ SELL พวกเราบางทีอาจจะปิดคำบัญชา SELL แล้วถือคำบัญชา BUY ไว้มากยิ่งกว่า

4.การฉุด เส้น TREND LINE

เทรดเดอร์สาย PRICE ACTION จะถูกใจเส้น TREND LINE มากมาย เนื่องจากมันมีสาระสำหรับอีกทั้งการวิเคราะห์ทั้งยังกรอบระหว่างวันรวมทั้งกรอบระยะยาว

ด้วยการเชื่อมต่อจุด PIVOT ทำให้พวกเราจะได้มองเห็นเส้น TREND LINE ของความเอียงชันรวมทั้งจุดสำคัญที่ไม่เหมือนกัน การตีความหมายรากฐานของเส้น TREND LINE เป็นแนวโน้มการกลับตัวคราวหลังเส้น TREND LINE หลักถูก BREAK ไปได้แล้ว

วิธีการแบบนี้ง่ายดายเสียยิ่งกว่าเนื่องจากไม่จำเป็นต้องใช้อินดิเคเตอร์ใดๆก็ตามแน่ๆว่าการดูด้วยแผนภูมิไม่จะดำเนินงานได้เร็วกว่าการรอคอยอินดิเคเตอร์ ประเมินผลก่อนแสดงผล อย่างไรก็แล้วแต่เพื่อมันดำเนินงานได้คุณต้องมีความถนัดการลากเส้น TREND LINE

แนวทางที่เยี่ยมที่สุดสำหรับในการค้นหาแนวโน้มระหว่างวัน

ไม่มีกระบวนการระบุแนวโน้มระหว่างวันที่เพอร์เฟ็ค พวกเราชอบมองเห็นแบบอย่างอยู่ตลอดว่าตลาดบางครั้งอาจจะกลับมา มีทิศทางเสมือนแนวโน้มก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาได้หรืออาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีหลายสาเหตุที่พวกเราจะการันตีแนวโน้มเฉพาะเมื่อแผนภูมิราคาเริ่มมีการถอยกลับอย่างเต็มกำลังแล้ว

กรณีดังกล่าวมาแล้วข้างต้นไม่สามารถที่จะหลบหลีกได้ นี่เป็นเหตุผลที่พวกเราจะต้องมีการตั้ง STOP LOSS เพื่อให้ความหมายเสี่ยงของพวกเรา

ในแต่ละแนวทางข้างต้นอีกทั้ง 4 ล้วนมีจุดอ่อนเฉพาะของมันเอง

สำหรับทั้งคู่แนวทางแรก พวกเราจำต้องพึ่งพิงอินดิเคเตอร์ พวกเราจำต้องตกลงใจในขณะการหวนกลับของอินดิเคเตอร์พวกนี้ ถ้าหากว่าไม่มีช่วงการหวนกลับที่สมควรพวกเราบางทีอาจจะพลาดการเทรดไปได้

สำหรับวิธีการใช้กรอบขณะที่สูงมากขึ้นนั้น ขึ้นกับการเลือกกรอบในขณะที่สูงมากขึ้นของพวกเรา กรอบในเวลาที่สูงมากขึ้นสะท้อนถึงแนวโน้มระหว่างวัน กรอบเวลา 30 นาทีรวมทั้งกรอบเวลารายชั่วโมงจะได้รับความนิยมในกลุ่มเทรดเดอร์รายวัน

สำหรับวิธีการใช้เส้น TREND LINE มีความท้าที่แจ้งชัดเป็นการลากเส้นที่จะควรจะมีความหมาย หัวข้อสำคัญเป็นการลากเส้น TREND LINE ที่ใกล้เคียงแล้วก็เกี่ยวข้องกัน

LEAVE A REPLY

Please enter your comment!
Please enter your name here