Greentraderfx ความรู้ FOREX เปิดบัญชี FOREX

ซิกแนล Forex USDCHF ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 Buy @ 0.8899 & 0.8882 Stop Loss@ 0.8835 Take Profit@ 0.8982

ซิกแนล Forex AUDUSD ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 Buy Limit@ 0.7681 Stop Loss@ 0.7640 Take Profit@ 0.7760

ซิกแนล Forex GBPUSD ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 Buy Limit@ 1.3789 Stop Loss@ 1.3755 Take Profit@ 1.3875

ซิกแนล Forex EURUSD ประจำวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2564 Buy Limit@ 1.2103 Stop Loss@ 1.2087 Take Profit@ 1.2125

สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเทียบเยนบริเวณกรอบบนที่ 104 เยนในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตราโตเกียวเช้านี้ ขณะที่นักลงทุนจับตาถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์กในวันนี้ สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ณ เที่ยงวันนี้ตามเวลาโตเกียว ดอลลาร์เคลื่อนไหวที่ 104.61-104.65 เยน เทียบกับ 104.50-104.60 เยน และ 104.77-104.78 เยนที่ตลาดโตเกียวเมื่อเวลา 17.00 น.วานนี้ ยูโรเคลื่อนไหวที่ 1.2123-1.2127 ดอลลาร์ และ 126.85-126.89 เยน เทียบกับ 1.2115-1.2125 ดอลลาร์...

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 2% ติดต่อกันเป็นวันที่สองเมื่อคืนนี้ (2 ก.พ.) เนื่องจากนักลงทุนขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ที่ยังคงดำเนินการผลิตน้ำมันตามข้อตกลง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากความหวังที่ว่า รัฐบาลสหรัฐจะเร่งผลักดันการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ ซึ่งจะช่วยหนุนกิจกรรมทางเศรษฐกิจและความต้องการใช้น้ำมันให้ฟื้นตัวขึ้นด้วย สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. พุ่งขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 54.76 ดอลลาร์/บาร์เรล สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนเม.ย. พุ่งขึ้น...

สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (CBO) คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีแนวโน้มขยายตัว 4.6% ในปี 2564 หลังจากที่หดตัวลง 3.5% ในปี 2563 ซึ่งดีกว่าที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนก.ค.ว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวเพียง 4% หลังจากที่หดตัว 5.8% ในปี 2563 ตัวเลขคาดการณ์ล่าสุดนี้ CBO พิจารณาจากผลกระทบเชิงบวกที่เกิดจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 9 แสนล้านดอลลาร์ที่ผ่านความเห็นชอบจากสภาคองเกรสในช่วงสิ้นปี 2563 รวมทั้งกิจกรรมทางธุรกิจที่กลับมาดำเนินการได้รวดเร็วขึ้น โดย CBO ระบุว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2563 อาจะทำให้รัฐบาลกลางสหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณเพิ่มขึ้น 7.74 แสนล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2564...

นายแพทย์แอนโทนี ฟอซี ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบาดอันดับหนึ่งของสหรัฐฯ ได้ออกมาเปิดเผยว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี เคยพยายามกล่อมให้เขานำเสนอสถานการณ์การระบาดของเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ ให้ออกมาดีกว่าความเป็นจริง เมื่อต้นสัปดาห์ที่แล้ว นายแพทย์ฟอซีได้ให้สัมภาษณ์กับเดอะนิวยอร์กไทมส์ ถึงช่วงที่ทำหน้าที่ในคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโรคโควิด-19 ของทำเนียบขาวภายใต้การบริหารของนายทรัมป์ โดยให้ข้อมูลว่าในช่วงแรกที่เชื้อโควิด-19 แพร่ระบาด นายทรัมป์ได้พยายามลดทอนความร้ายแรงของสถานการณ์โรคระบาดลง นายแพทย์ฟอซีอธิบายว่า "ผมเริ่มตระหนักได้ว่ามีปัญหาตอนเวลาที่ต้องพยายามอธิบายถึงความร้ายแรงของสถานการณ์นี้ แล้วปฏิกิริยาจากท่านประธานาธิบดี... ที่แทบจะเรียกได้ว่าเป็นแบบอัตโนมัติในทุกๆ ครั้งเลย ก็คือเมื่ออธิบายข้อมูลให้ฟัง... เขาจะพยายามกล่อมให้ลดทอนความร้ายแรงของเรื่องนั้นลง" เมื่อพูดถึงการรับมือโรคระบาดของรัฐบาลในสมัยนายทรัมป์ นายแพทย์ฟอซีเผยว่านายทรัมป์มักจะประเมินการรับมือทางการแพทย์ "จากเรื่องเล่าที่ได้ยินมา ไม่ใช่จากข้อเท็จจริง" "ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ผมกังวลอย่างยิ่ง"

สำนักข่าวญี่ปุ่นรายงานว่า ในวันที่ 7 ก.พ. 2564 นี้จะเป็นวันสิ้นสุดของการประกาศใช้มาตรการฉุกเฉินล่าสุดที่ประกาศใช้ไปเมื่อวันที่ 11 ม.ค. 2564 ที่ผ่านมา โดยนายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น นายโยชิฮิเดะ ซูงะ เป็นผู้ประกาศ นายยาสุโตชิ นิชิมูระ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในการรับมือกับโรคโควิด-19 ระบาดเปิดเผยว่า รัฐบาลจะเรียกประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขและสาขาอื่นๆ ในเร็วๆ นี้ เพื่อช่วยตัดสินใจเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการฉุกเฉิน โดยรายงานได้ระบุว่า กรุงโตเกียว คานากาวะ ชิบะ และ ไซตามะ ได้ผ่านพ้นช่วงที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดแล้ว แต่การติดเชื้อยังคงอยู่ในระดับที่สูงอยู่ คาดว่าจะยังบังคับใช้มาตรการฉุกเฉินดังกล่าวไปก่อน แต่ที่จังหวะโทจิงิ อาจจะประกาศยกเลิกมาตรการไปก่อน

คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเตรียมซื้อวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 เพิ่มอีก 200 ล้านโดส และจะจัดส่งวัคซีนเพิ่มเติมไปยังรัฐต่างๆ ตามคำมั่นที่เคยให้ไว้ว่าจะสกัดแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากในสหรัฐ สื่อต่างประเทศรายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสของรัฐบาลสหรัฐว่า คณะบริหารของปธน.ไบเดนได้ชี้แจงรายละเอียดให้ผู้ว่าการรัฐต่างๆ ทราบถึงแผนการเพิ่มจำนวนวัคซีนเป็น 10 ล้านโดสต่อสัปดาห์ตลอดช่วงสามสัปดาห์ข้างหน้า จากปัจจุบันซึ่งอยู่ที่ 8.6 ล้านโดส ทั้งนี้ คณะบริหารจะซื้อวัคซีนจากไฟเซอร์และโมเดอร์นา บริษัทละ 100 ล้านโดส ซึ่งจะส่งผลให้มีจำนวนวัคซีนรวมทั้งหมด 600 ล้านโดส และคาดว่าจะส่งมอบได้ในช่วงฤดูร้อน โดยวัคซีนดังกล่าวต้องฉีดในจำนวน 2 โดสต่อคนเพื่อให้มีประสิทธิภาพเต็มที่ ข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ว่าการจัดซื้อวัคซีนในครั้งนี้จะครอบคลุมประชากรส่วนใหญ่ในสหรัฐ